ผัดผักรวมใส่กุ้ง เรียกได้ว่าเป็นเมนูโปรดของทุกบ้านเลยก็ว่าได้ และเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ เหมาะสำหรับเป็นอาหารจานหลักของใครหลายๆคน ด้วยความกรอบของผักที่เรานำมาใช้เป็นวัตถุดิบหลักในการผัด นอกจากนี้เรายังใส่กุ้งลงไป ให้รสสัมผัสถึงความสด ความหวานของกุ้งที่มีความกรอบเด้งในขั้นตอนการผัด ช่างเป็นส่วนผสมที่ลงตัว นอกจากจะได้ทานผักยังได้ทานกุ้งอีกด้วย บางครอบครัวจะใส่เนื้อสัตว์ชนิดอื่น เราก็ไม่ว่ากัน เราทำตามวัตถุดิบที่เรามีในครัวได้เลยค่ะ หรือเราจะผัดใส่น้ำมันหอยเพียงอย่างเดียวก็อร่อยไม่แพ้กัน เมนูถือเป็นเมนูที่กินเมื่อไหร่ก็อร่อย เราขอแนะนำเมนูนี้เลยค่า เสือหิวบอกได้เลยว่าเมนูนี้เป็นเมนูของคนรักผักใบเขียวเลยก็ว่าได้ วันนี้เสือหิวอยากให้เพื่อนๆ ได้ลองมาทำตามกันดู
ผัดผักรวมใส่กุ้งมีส่วนผสมดังนี้
- เห็ดฟาง 10 ดอก
- แคร์รอต 1 หัว
- บรอกโคลี่ 1 หัว
- ถั่วหวาน 15 ฝัก
- คะน้าฮ่องกง 7-8 ต้น
- ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ
- กระเทียมสับ 5 กลีบ (กระเทียมจีน)
- ซอสปรุงรส 3 ช้อนโต๊
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 1.5 ช้อนโต๊ะ
- กุ้ง 500 กิโลกรัม
วิธีทําผัดผักรวมมิตร (ใส่กุ้ง)ให้อร่อย
1. เริ่มต้นเราล้างทำความสะอาดผักทั้งหมด ตอนล้างผักเราแช่น้ำเกลือทิ้งไว้ประมาณหนึ่งชั่วโมง เพื่อเป็นการล้างสารตกค้างที่อาจปนเปื้อนมากับผักของเรา
2. กุ้ง ล้างทำความสะอาด ทำการปอกเปลือกกุ้ง เอาหัวกุ้งออก เหลือแต่ส่วนหางกุ้งไว้ ผ่าเอาเส้นดำหลังกุ้งออก ตอนล้างกุ้งเราเคล้าเกลือป่นเล็กน้อยเพื่อดับกลิ่นคาว
3. ตั้งน้ำให้เดือดเพื่อทำการลวกผัก เราจะใส่บรอกโคลี่ ถั่วหวาน ลงไปลวกในน้ำเดือดจัดพร้อมกัน ตามด้วยแคร์รอต คะน้าฮ่องกง เราจะลวกไม่นาน (ให้สังเกตุผักจะเริ่มเปลี่ยนสีเป็นสีเขียวสด ลวกประมาณ 2 นาที ให้รีบนำขึ้น) ลวกเสร็จแล้วให้นำมาแช่ในน้ำเย็นจัดเพื่อเป็นการรักษาสารอาหารที่อยู่ในผัก และจะทำให้ผักมีสีเขียวสดน่ารับประทานยิ่งขึ้น
4. ใส่น้ำมันพืชลงไป ใช้ไฟกลางในการผัด ตามด้วยกระเทียมสับผัดให้กระเทียมมีสีเหลืองอ่อน พอกระเทียมเริ่มส่งกลิ่นหอม ให้ใส่กุ้งลงไปผัด จังหวะนี้เราจะเร่งไฟแรงขึ้น ผัดให้กุ้งสุก ใส่เห็ดฟางตามลงไปแล้วผัดต่อ ใส่ผักที่เราแช่น้ำเย็นจัดลงไปผัดรวมกันทั้งหมด (ผักที่แช่น้ำเย็นไว้ เราเทน้ำออกให้ผักสะเด็ดน้ำ) เราจะใช้เวลาผัดไม่นาน ประมาณ 5 นาที ที่ใช้เวลาผัดไม่นานเพราะเราได้ทำการลวกผักไว้ก่อนแล้ว
5. ปรุงรสชาติด้วยซอสหอยนางรม ซอสปรุงรส น้ำปลา น้ำตาลทราย รสชาติผัดผักของเราจะมีรสชาติออกหวานเล็กน้อย เค็มตาม ชิมให้รสชาติกลมกล่อมตามแบบที่เราชอบทานเลย ผัดให้ทุกอย่างเข้ากันดี ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
ผัดผักรวมกี่แคลนั้นเป็นคำถามยอดนิยมสำหรับคนกำลังลดน้ำหนัก
- เมื่อเราคำนวณปริมาณแคลนั้นโดยเฉลี่ยแล้วต้องคำนวณจากหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นน้ำหนักของผัก และปริมาณน้ำมันที่ใช้รวมไปถึงเนื้อสัตว์ที่ใส่ลงไปอย่างเมนูผัดผักรวมกุ้งนั้น จากข้างต้น ทางเวปเสือหิวขอให้ข้อมูลประมาณการแทนที่จะบอกเปะๆ โดย พลังงานที่ได้จากผัดผักรวมนั้นประมาณ 132.71 กิโลแคลอรี่ และเฉลี่ยชิ้นละ 18.7 กิโลแคลอรี่ โดยมี โปรตีนโดยประมาณ 8.146 กรัม คาร์โบไฮเดตร 12.974 กรัม และไขมันประมาณ 5.61 กรัม
ประโยชน์ผัดผักรวมมิตรใส่กุ้งนั้นมีอะไรบ้าง
- เห็ดฟาง ป้องกันไม่ให้เกิดโรคมะเร็ง ช่วยย่อยอาหาร ช่วยบำรุงร่างกาย บำรุงกำลัง บำรุงโลหิต
- แคร์รอต แร่ธาตุที่มีประโยชน์หลายชนิด ได้แก่ เบตาแคโรทีน วิตามินA, B1 , B2 , C , E และธาตุแคลเซียม ธาตุโพแทสเซียม
- บรอกโคลี่ บรอกโคลี มีรสชาติหวานกรอบ สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลาย อีกทั้งมีคุณค่าทางอาหารสูง อุดมไปด้วยบีตา-แคโรทีน (beta-carotene) เส้นใยอาหาร วิตามิน C
- ถั่วหวาน เป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระ และยังช่วยลดเลือนริ้วรอยก่อนวัยได้เป็นอย่างดี
- คะน้าฮ่องกง ช่วยป้องกันโรคมะเร็งและปรับปรุงสายตา
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของประโยชน์ที่ได้จากเมนูผัดผักรวมใส่กุ้งนี้
สามารถดูคลิปวิธีการทำได้ที่นี่เลยครับ
ถ้าพูดถึงผักมีมากมายหลายชนิดในบ้านเรา บางชนิดก็มีกลิ่นแรง และให้รสชาติหวาน ขม หรือจืด ก็ขึ้นอยู่กับประโยชน์ของผักในแต่ละชนิด ในวันนี้เสือหิว ได้นำเมนูผักที่ดูธรรมดานำมาประกอบอาหารให้เพื่อนๆ ได้ลองทำทานกันดู ถ้าพูดถึงผัดผักคงจะไม่มีใครไม่รู้จักเมนูผัดผักรวมเพราะ เมนูนี้ประกอบไปด้วยผักมากมายหลายชนิดซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนผักได้ตามความชอบและวันนี้เสือหิวได้นำถั่วหวาน ที่เราไม่ค่อยจะรู้จักหรือได้ทานกัน นำมาประกอบอาหาร ถั่วหวานจะเป็นผักที่มีคุณค่าทางอาหารเหมือนถั่วลันเตา มีแคลเซียมและฟอสฟอรัสมาก ช่วยบำรุงกระดูกและฟันของเราให้แข็งแรง ภายหลังนิยมนำมาประกอบอาหารมากขึ้น และจะถูกจัดวางอยู่บนจานสเต๊ก หรือผัดผักน้ำมันหอยก็ทำได้ วันนี้เสือหิวก็มีเมนูผักเพื่อสุขภาพมาฝากเพื่อนๆ กัน ได้ลองทำทานกันดูแล้วจะติดใจในความกรอบอร่อยของผักไทยบ้านเรา เพื่อนๆ สามารถดัดแปลงเป็นผักอื่นก็สามารถทำได้ การทำอาหารไม่มีสูตรที่ลงตัวขอให้ทำจากความชอบของเราก่อน แล้วเราจะมีความสุขกับอาหารที่เราทำ