ปลานึ่งจิ้มแจ่ว แจ่วปลาร้าแซ่บนัว ผักเยอะๆ ปก

วิธีทำปลาทับทิมนึ่งผักรวมแบบบ้าน ๆ ให้อร่อยพร้อมสูตรน้ําจิ้มแจ่ว สมุนไพรแน่นราคาถูก

ปลาทับทิมนึ่งผักรวมจิ้มแจ่ว แจ่วปลาร้าแซ่บนัว ผักเยอะๆ อร่อยแบบบ้าน ๆ วิธีทําไม่ยาก ชื่อก็บอกอยู่แล้วเมนูวันนี้เป็นเมนูปลา เป็นเมนูเพื่อสุขภาพปลานึ่งทานคู่กับผักนึ่ง มีประโยชน์มากมาย แถมยังมีรสชาติจี๊ดจ๊าดของแจ่วที่ทานคู่กับปลานึ่ง แจ่วปลาร้าแซ่บนัว ได้ข้าวเหนียวร้อน ๆ ยิ่งทำให้อร่อย หรือจะเป็นข้าวสวยก็อร่อยไม่แพ้กัน ปลาที่เราใช้วันนี้เป็นปลาทับทิม เนื้อปลาจะมีความแน่น รสชาติหวาน และกลิ่นคาวก็จะน้อยกว่าปลานิล บางคนที่เคยได้ทานปลานิลนึ่งจะรู้สึกได้กลิ่นดินจากตัวปลาเลยทำให้รู้สึกไม่ค่อยอร่อยเท่าไหร่ วันนี้เสือหิวอยากชวนเพื่อนๆ มาทานปลาทับทิมนึ่งกัน แกล้มกับผักนึ่งตามที่เราชอบ จะเลือกทานคู่กับผักอะไรก็ได้ ราดด้วยน้ำจิ้มแจ่วปลาร้ารสชาติเด็ด บางคนที่ชอบทานปลาก็จะไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องเมนูซ้ำ ๆ กับเมนูปลาแต่หลายคนที่ไม่ค่อยชอบทานเนื้อปลา ก็จะรู้สึกว่า เมนูปลามีแต่เมนูเดิมๆ ที่จริงแล้ว เราสามารถ ปรับเปลี่ยนความจำเจ ได้ง่ายสำหรับเมนูปลา ที่ป็นเมนูนึ่งเช่น สามารถ เปลี่ยนชนิดของน้ำจิ้ม หรือเปลี่ยนชนิดของผัก ที่ใช้ทานคู่กับปลาก็ได้ อาจจะเป็น การวนเวียนเปลี่ยนชนิดของผักไปตามฤดูกาล ต่างๆ เพราะผักในแต่ละฤดูก็จะมีความอร่อยที่ต่างกันไป นี้ก็จะช่วยให้เราไม่เบื่อกับการกินเมนูปลาได้เยอะเลยทีเดียว เมนูปลาเป็นเมนูที่ดีต่อสุขภาพไม่ว่าจะเป็นแหล่งโปรตีที่ดีและย่อยง่าย และยิ่งมาทำเป็นเมนูนึ่งยิ่งดี เพราะไม่ได้ใช้น้ำมันในการปรุงอาหาร ทำให้เมนูนี้ไม่ส่งผลต่อน้ำหนักตัวที่อาจจะเพิ่มขึ้นสำหรับคนที่กำลังควบคลุมน้ำหนักอยู่ และเป็นเมนูที่ได้รับประทานผักเยอะ จึงส่งผลดีต่อการขับถ่าย พูดมาถึงตรงนี้ก็อยากจะชวนเพื่อนๆ เข้าครัวกันแล้ว เราไปดูขั้นตอนและส่วนผสมในการทำปลานึ่งกันเลยดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง

ปลาทับทิมนึ่งผักรวมจิ้มแจ่วมีส่วนประกอบอะไรบ้างเรามาดูกัน

  • ปลาทับทิม 1 กิโลกรัม
  • ใบโหระพา 2-3 ต้น
  • ตะไคร้ 3-4 ต้น
  • ใบมะกรูด 6-7 ใบ
  • กวางตุ้ง 5-6 ต้น
  • เห็ดชิเมจิ 1 ห่อเล็ก
  • เห็ดนางฟ้า 1 ห่อเล็ก
  • ดอกกะหล่ำ 1 หัว
  • บรอกโคลี 1 หัว
  • ข้าวโพดอ่อน 1 ห่อเล็ก
  • ส่วนผสมแจ่วปลาร้า
  • ผงปรุงรส ครึ่งช้อนชา
  • น้ำปลาร้าต้มสุก 3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
  • หอมแดง 5-6 หัว
  • กระเทียมไทย 10-20 กลีบ
  • พริกจินดาสีแดง สีเขียว 15-20 เม็ด
  • พริกหนุ่ม 4 เม็ด
  • มะเขือเทศ 2 ลูก
  • มะนาว 1 ลูก
    ส่วนผสมปลาทับทิมนึ่ง

วิธีทำปลาทับทิมนึ่งผักรวมจิ้มแจ่วแบบบ้าน ๆ พร้อมสูตรการทำน้ำจิ้ม

  1. เริ่มต้นเราล้างทำความสะอาดปลาทับทิม เคล้าด้วยเกลือป่น เอาไส้ออกให้หมด และล้างท้องปลาให้สะอาด
  2. เราจะทำการนึ่งปลาก่อน เอาตะไคร้ ใบโหระพา ใบมะกรูด วางก่อนนำปลาทับทิมลงวาง นำตะไคร้ไปทุบแล้วหั่นเป็นท่อน ใบมะกรูดยัดที่ท้องปลาทับทิม เสร็จแล้วตั้งน้ำให้เดือด พอน้ำเดือดแล้วนำปลาทับทิมลงไปนึ่งใช้เวลาประมาณ 15 นาที
    ปลาทับทิมนึ่ง
    ปลาทับทิมนึ่งแบบบ้านๆ
    นึ่งปลาทับทิม
  3. นึ่งปลาทับทิมครบตามเวลาแล้ว เปิดฝานำผักที่เราเตรียมไว้นำไปนึ่งต่อปิดฝาใช้เวลาในการนึ่งประมาณ 5 นาที ให้ผักสุกหรือพอเหี่ยวก็พอ
    ปลาทับทิมนึ่งผักรวม
  4. ส่วนผสมของน้ำจิ้มแจ่วปลาร้า หอมแดง กระเทียม พริกจินดาสีแดง สีเขียว พริกหนุ่ม นำทุกอย่างลงไปคั่วในกระทะใช้ไฟอ่อนให้ทุกอย่างสุก พอทุกอย่างสุกจะเริ่มมีกลิ่นหอม (สุกแล้วจะมีสีไหม้ๆ) สุดท้ายมะเขือเทศลงไปจี่ในกระทะเสร็จแล้วพักไว้ก่อน
    ปลาทับทิมนึ่งจิ้มแจ่ว
  5. นำส่วนผสมทุกอย่างไปโขลกรวมกัน (ยกเว้นมะเขือเทศใส่ขั้นตอนสุดท้าย) โขลกพอหยาบ ตามด้วยมะเขือเทศ ค่อยๆ ตำระวังกระเด็นเข้าตา
    นึ่งปลาทับทิมให้อร่อย
    ปลาทับทิมนึ่งแจ่ว
  6. ใส่น้ำปลาร้าต้มสุก น้ำปลา ผงปรุงรส มะนาว ชิมรสชาติเลยจ้ะ รสชาติเผ็ดต้องมาก่อนเลย ความเค็มจากน้ำปลาร้า หวานติดลิ้นเล็กน้อย ให้รสชาติแซ่บๆ นัวๆ จัดตามที่เราชอบทานเลยจ้ะ
    ปลาทับทิมนึ่งวิธีทํา
  7. ครบ 5 นาทีแล้ว ผักสุกแล้ว จัดใส่จานทานคู่กับผักนึ่ง น้ำจิ้มแจ่วปลาร้าแซ่บนัว
    ปลานึ่งจิ้มแจ่ว แจ่วปลาร้าแซ่บนัว ผักเยอะๆ

ดูวิธีการทำอย่างละเอียดในแบบ VDO ได้ที่นี่

ผักต่างๆ ที่นำมานึ่ง เพื่อนๆ สามารถเพิ่มปริมาณได้ตามชอบเลย วันนี้เสือหิวต้องการให้มีผักหลากหลายชนิดในการทานเลยใช้ผักค่อนข้างเยอะ แต่ปริมาณเพื่อนๆ ไม่ต้องกังวล เลือกซื้อผักที่เราชอบทานมานึ่ง ส่วนเครื่องปรุงน้ำจิ้มแจ่วปลาร้า ถ้าไม่ชอบทานเผ็ดก็ลดพริกลงได้ ความเค็ม ความหวาน ความเปรี้ยว เราค่อยๆ ปรุงแล้วชิมรสชาติบ่อยๆ จนได้รสชาติที่ถูกปากของเรา แต่เมนูนี้ชื่อก็บอกอยู่แล้วปลานึ่งจิ้มแจ่ว แจ่วปลาร้าแซ่บนัว ไม่เผ็ดไม่นัวก็ไม่อร่อย แค่เห็นก็กลืนน้ำลายแล้ว การทำอาหารไม่สูตรตายตัวเราสามารถดัดแปลงวัตถุดิบได้ตามความชอบของเราเลย หรือจะปรุงให้รสชาติออกมาในแบบที่เราชอบทาน เพียงแต่ให้คำนึงถึงคนที่เราทานด้วยว่าชอบรสชาติแบบไหนเราก็เลือกปรุงให้ถูกปากคนทานเราจะได้ทานอาหารได้อย่างมีความสุข

Scroll to Top