กะหล่ำปลีตุ๋นหมูสามชั้น วิธีทำง่าย ๆ หอมอร่อย เปื่อยนุ่มละมุนลิ้นมากจ้า กับข้าวง่าย

กะหล่ำปลีตุ๋นหมูสามชั้น เป็นเมนูต้มจืดทานง่ายๆสบายท้อง ซดน้ำร้อนๆ น้ำซุปหวานผักกระหล่ำปลี วันนี้เสือหิวชวนอร่อยขอเสนอเมนูกะหล่ำปลีตุ๋นหมูสามชั้น กะหล่ำปลีเปื่อยๆ หมูสามชั้นนุ่มๆ ซดน้ำร้อนๆ คล่องคอ จะทานเป็นอาหารเช้าหรืออาหารเย็นก็อิ่มอร่อยสบายท้อง เมนูนี้ถือเป็นอีกหนึ่งเมนูที่ต้องลองทำกันเป็นเมนูต้มจืดรสชาติดี ทำไม่ยาก ขั้นตอนการทำตั้งแต่เริ่มต้นจนจบไม่ยากเลย ต้มจืดกะหล่ำปลีทำง่ายแถมประโยชน์ วันนี้เราใช้กะหล่ำปลี 1 หัวนำมาผ่าครึ่งแล้วหั่นเป็นชิ้นให้ได้ 4 ชิ้นวางลงในหม้อแล้วก็ต้มจนผักและหมูสามชั้นเปื่อยนุ่ม น้ำซุปมีกลิ่นหอมของสามเกลอ รากผักชี กระเทียม พริกไทย เป็นเมนูที่ไม่ควรพลาดในช่วงที่อากาศเริ่มหนาวแบบนี้ เพื่อนๆเลือกกะหล่ำปลีหัวที่ค่อนข้างมีน้ำหนัก ไม่เบาจนเกินไปเลือกหัวที่มีใบสีเขียวสดสีไม่ซีด ก่อนนำมาปรุงอาหารก็ให้แช่น้ำเกลือทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมงเพื่อเป็นการล้างสารพิษต่างๆ ที่อาจจะเจือปนมากับผักของเรา ถ้าเพื่อนๆพร้อมแล้วเรารีบไปตลาดหาซื้อวัตถุดิบมาทำอาหารกันดีกว่าจ้ะ

คลิป VDO วิธีการทำอย่างละเอียด

ส่วนผสมกะหล่ำปลีตุ๋นหมูสามชั้น

• กะหล่ำปลี 500 กรัม
• หมูสามชั้น 1 หัวขนาดกลาง
• ผงปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
• รากผักชี 3 ราก
• กระเทียมจีน 5-8 หัว
• พริกไทย 1 ช้อนชา
• ผักชี 20 กรัม
• น้ำตาลทราย ครึ่งช้อนชา
• ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
• ซอสปรุงรส 2 ช้อนโต๊ะ
• ซีอิ๊วดำแบบหวาน 1 ช้อนชา

วิธีทำกะหล่ำปลีตุ๋นหมูสามชั้น

1. เริ่มต้นล้างทำความสะอาดผักแล้วผึ่งให้สะเด็ดน้ำ ล้างหมูสามชั้นเคล้าด้วยเกลือป่นและน้ำส้มสายชูเพื่อลดกลิ่นสาบแล้วหั่นเป็นชิ้นหนาประมาณ 1-2 นิ้ว ในส่วนของกะหล่ำปลีหั่นให้เป็นชิ้น 4 ชิ้น เอาแกนกลางของกะหล่ำปลีออก
   
   
2. นำหมูสามชั้นลงไปจี่หรือผัดในหม้อตามด้วยพริกไทยขาว รากผักชี กระเทียมจีน ผัดให้ทุกอย่างส่งกลิ่นหอม ปรุงรสชาติด้วยซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย ผงปรุงรส ผัดให้ส่วนผสมเข้ากันดี
   
   
3. ขั้นตอนต่อไปนำกะหล่ำปลีจัดเรียงในหม้อ เติมน้ำสะอาดลงไปให้ท้วมกะหล่ำปลี ใส่ซีอิ๊วดำลงไปเสร็จแล้วก็ปิดฝาหม้อใช้เวลาตุ๋นประมาณ 30-45 นาที
   
   
4. ตุ๋นจนครบเวลาแล้วก็ชิมรสชาติกันเลยจ้ะ รสชาติก็จะกลมกล่อมไม่เค็มและหวานจนเกินไป เท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อยโรยหน้าด้วยผักชีพร้อมเสริฟทานกับข้าวสวยร้อนๆ
   

กระหล่ำปลีตุ๋นหมูสามชั้น เป็นเมนูที่น่ารับประทานอีกเมนูหนึ่ง ถ้าเราทำให้เด็กทานเราไม่ต้องใส่พริกไทยหรือจะลดพริกไทยลงก็ได้ตามที่เราชอบ เครื่องปรุงเพื่อนๆสามารถเพิ่มหรือลดได้ตามความต้องการ วันนี้เราเติมน้ำตาลทรายเพื่อตัดรสชาติความเค็มแต่ถ้าใครไม่ชอบทานหวานก็ไม่ต้องใส่น้ำตาลทราย เราสามารถปรับหรือลดวัตถุดิบได้ตามที่เราชอบกันเลยจ้ะ วันนี้เสือหิวก็มีเมนูง่ายๆมาฝากเพื่อนๆ ทำทานกันภายในครอบครัว เพื่อนๆก็ลองทำตามกันดูนะค่ะ ได้ผลอย่างไรก็มาเล่าให้ฟังกันบ้างหรือใครมีไอเดียร์หรือเทคนิคอื่นก็นำมาแชร์กันได้นะค่ะ การทำอาหารไม่มีสูตรตายตัวใครชอบทานหวาน ทานเค็ม ทานเผ็ดก็ปรุงรสชาติได้ตามที่เราชอบทานแล้วอร่อยเราก็มีความสุขแล้วจ้ะ